[ล๊อตใหม่] น้ำมันเครื่อง Redline 5W30 / 5W40 / 15W50 /10W60 / 15W40 (Diesel Motoroil) /
น้ำมันเครื่อง RED LINE OIL -Motor oil
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% จากสูตร Ester formula สำหรับเครื่องยนต์เบนชินและดีเซล
ใช้งานทั่วไป เช่น รถยนต์ รถบรรทุกขนาดเล็ก หรือแม้แต่เรือ ผลิตการเกรดน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงและได้มาตรฐานจาก USA
ยังสามารถเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องให้เหมาะแก่การใช้งานได้ตามที่ต้องการ
- ป้องกันการสึกหรอที่ดีเยี่ยมและลดแรงเสียดทานที่ดี
มีสารชะล้างสูงช่วยขจัดสิ่งสกปรกและคราบเขม่าให้มีความสะอาดมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มการประหยัดเชื้อเพลิงและปกป้องโอริงพร้อมแรงม้าที่มากขึ้น
- คงความเสถียรภาพของอุณหภูมิที่เหนือกว่าและเพิ่มการหล่อลื่นเพื่อต้านทานการเกิดออกชิเดชั่นของโลหะที่ร้อนจัดเมื่อเทียบกับน้ำมันสังเคราะห์อื่นๆ
- เพิ่มความหนาของฟีล์มน้ำมันเครื่องเพื่อปกป้องแบริ่งและแคม
- ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดสามารถให้ได้กับน้ำมันอื่นๆ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์
เป็นที่รู้กันว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ( synthetic oil ) ทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะในการระบายความร้อนดีขึ้น
ผลิตพลังงานทำความสะอาดและมีอายุการใช้งานนานกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา
สิ่งที่หลายคนไม่ค่อยรู้คือ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ไม่ได้มีประสิทธิภาพเหมือนกันทั้งตลาด
RED LINE ศึกษาเรื่องนี้มากว่า 40 ปี
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ของ RED LINE ได้รับการยอมรับจากทีมแข่งรถชั้นนำทั่วโลก
แต่ก็มีหลายทีมที่ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์อื่น
แล้วอะไรหละ ที่ทำให้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ของ RED LINE แตกต่าง ?
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์ซึ่งมีหลายชนิดให้เลือก
น้ำมันพื้นฐานเหล่านี้มีความแตกต่างกันในเรื่ิองของคุณสมบัติการหล่อลื่นและการต้านทานความร้อน รวมไปถึงต้นทุนด้วย
ซึ่งน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ของ RED LINE ใช้น้ำมันพื้นฐานที่ีมีความเสถียรและ ราคาแพงที่สุด Polymer & Polyol Esters และ Poly Alpha Olefin
มักเรียกกันสั่น ๆ ว่า Ester และ PAO
และนี่คือเหตุผลสำคัญ
การลดการเสียดทานเป็นวัตถุประสงค์หลักของน้ำมันหล่อลื่นทุกประเภท
น้ำมันพื้นฐานจำพวก PAO ถูกสร้างขึ้นโดยใช้คุณสมบัติทางโมเลกุลที่ดีที่สุดสำหรับการหล่อลื่นและสร้างโมเลกุลสังเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การปรับปรุงโครงสร้างโมเลกุลจะช่วยลดแรงเสียดทาน เพราะมันทำให้การเสียดสีระหว่างโมเลกุลต่างๆ ในน้ำมันเครื่องลดลง อะตอมของอ๊อกซิเจนจะเชื่อมต่อกับโครงสร้างโมเลกุลของ Ester เพื่อเหตุผล 2 ประการ
ประการแรก โมเลกุลของออกซิเจนจะดึงดูดกันและกันอย่างรุนแรง ซึ่งหมายความว่าจะทำลายพันธะโมเลกุลได้ ต้องใช้ความร้อนที่สูงมากนั่นทำให้ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ของ RED LINE ทนทานความร้อนได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา รวมถึงน้ำมันเครื่องสังเคราะห์อื่นๆ ที่มีพันธะโมเลกุลที่อ่อนแอกว่า
ประการที่สอง อะตอมของออกซิเจนจะเข้ากันได้ดีกับผิวโลหะในเครื่องยนต์
พื้นผิวโลหะจะถูกเคลือบด้วยออกไซด์ที่ดูดออกซิเจนใน Ester ได้เหมือนแม่เหล็ก การเชื่อมต่อกันและกันระหว่างออกซิเจน มีความแข็งแรงมากกว่าออกซิเจนกับไฮโดคาร์บอนที่พบในน้ำมันเครื่องธรรมดาหรือน้ำมันสังเคราะห์ประเภทอื่น
ซึ่งหมายความว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ของ RED LINE มีฟีล์มปกป้องน้ำมันในขณะที่น้ำมันเครื่องตัวอื่นทำไม่ได้
น้ำมันเครื่องของ RED LINE ยังมีข้อดีอีกหนึ่งประการ ซึ่งก็คือความหนืดที่สอดคล้องกับแรงเสียดทาน และความร้อนที่สูงขึ้น
ความหนืดคืออะไร ??
ความหนืดคือ ความหนาแน่นหรือแรงต้านทานการไหลของน้ำมันเครื่องซึ่งน้ำมันเครื่องเกรดรวมจะมีความหนืดอยู่ 2 เกรด ในที่นี้ 5 w 30 หมายถึงความหนืดที่อุณภูมิ 2 แบบ เมื่อเครื่องยนต์เย็น และทำงานภายใต้สภาวะปกติ น้ำมันเครื่องธรรมดา และ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จำนวนมาก
จะใช้สารเพิ่มความหนาแน่น Polymeric เพื่อสร้างน้ำมันเครื่องเกรดรวม สารเพิ่มความหนาแน่นเหล่านี้ ประกอบด้วยโมเลกุลขนาดใหญที่จะเปลี่ยนรูปร่าง เมื่ออุณหภูมิเกิดการเปลี่ยนแปลง ปัญหาก็คือโมเลกุลเหล่านี้ตัดขาดจากกันได้อย่างง่ายดายในบริเวณที่เครื่องยนต์มีแรงดึงสูง
เมื่อโมเลกุลเหล่านี้ตัดขาดจากกัน ความหนืดของน้ำมันเครื่องจะไม่เสถียร์ ซึ่งจะไปเพิ่มการสึกกร่อน และลดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ของ RED LINE ที่มีโครงสร้างเป็น Ester / PAO
จะทำหน้าที่เป็นน้ำมันเครื่องเกรดรวม โดยไม่ต้องใช้สารเพิ่มความหนาแน่นที่ไร้ความเสถียร์
ทำให้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ RED LINE มีึความหนืดที่สอดคล้องมากขึ้นกับช่วงอุณหภูมิที่กว้างขึ้น นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้รถภายใต้สภาวะการทำงานปกติ ได้ไกลมากขึ้นก่อนจะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง นอกจากนี้ RED LINE ยังสามารถเพิ่มแรงม้าให้รถของคุณได้ด้วย
การทดสอบ Dyno test แสดงให้เห็นว่ามันช่วยปรับปรุงเรื่องของแรงม้าให้ดีขึ้น 1-3% เครื่องยนต์ Big-Block ของ เชฟโลเลต 460 ลูกบาศก์นิ้วที่ 5500 รอบ ต่อนาที ( RPM )
กับอุณหภูมิน้ำมันที่ 175 องศาฟาเรนไฮต์
น้ำมันปิโตเลียม 30WT Race Oil ให้แรงม้าที่ 526.8 HP
ส่วน RED LINE 30WT Race Oil ให้แรงม้าที่ 534.4 HP
และแรงม้าเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1.5 % จากน้ำมันเพียงอย่างเดียว
เคล็ดลับความสำเร็จของ RED LINE คือ ไม่มีความลับ
เราแค่เริ่มต้นน้ำมันพื้นฐานที่ดีที่สุด
สร้างการผสมผสานที่หลากหลายเพื่อตอบสนองทุกความต้องการ ตั้องแต่เครื่องยนต์รถซิ่งไปจนถึงเครื่องยนต์ธรรมดาที่ใช้เดินทางในทุกๆ วัน
เราไม่ได้ลดต้นทุนใดในการผลิตน้ำมันเครื่อง
เราจะไม่ปรับเปลี่ยนน้ำมันเครื่องของเราเพื่อให้ราคาถูกลง
เราต้องใช้มากกว่าการตลาดอันชาญฉลาดในการทำให้ลูกค้าพอใจ นี่คือเหตุผลที่น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ RED LINE ได้รับการยอมรับจากนักแข่งที่เก่งที่สุดในโลกและผู้ที่ชื่นชอบเรื่องรถอย่างแรงกล้า